"วิตามิน D" มีหน้าที่หลักในการช่วยดูดซึมแคลเซียม ช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกบาง และกระดูกพรุน มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเพศ จึงมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการสำคัญต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยลดฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
คนที่ขาดวิตามินดีมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากกว่าคนทั่วไปและการเสริมวิตามินดีช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้ดีขึ้น วิตามิน D ยังมีความสัมพันธ์เกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มีหน้าที่สำคัญในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย มีการค้นพบ Vitamin D Receptor หรือตัวรับที่จับกับวิตามิน D บน T cell และ B cell ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่กำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาคุกคามร่างกาย
วิตามิน D ช่วยให้สมองหลั่งสารเซโรโทนินมากขึ้น มีผลช่วยลดความเครียดและ ภาวะซึมเศร้า ช่วยในการแบ่งเซลล์ พัฒนาเซลล์เพื่อไปทำหน้าที่ซ่อมแซมส่วนสึกหรอต่าง ๆ ช่วยชะลอวัยของผิว ยังมีผลต่อประสิทธิภาพการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา โดยเฉพาะการเล่นกีฬาที่มีความหนักและต่อเนื่องเป็นเวลานาน
วิตามิน D สามารถหาได้จากการสัมผัสแสงแดดตอนเช้า ปลาที่มีไขมันสูง ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาทู ปลาซาร์ดีน ไข่ และนมที่มีการเติมวิตามินดี