
ในช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมานี้ เราน่าจะได้ข่าวเกี่ยวกับ PM2.5 มากเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นปีที่ 2 แล้วที่ประเทศไทยเราประสบปัญหานี้ และดูจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพิษสงของเจ้าฝุ่น PM2.5 นี้ก็ค่อนข้างร้ายกาจมากทีเดียว ดังนั้นวันนี้ผมจึงขอหยิบเรื่องราวของ PM2.5 มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน
PM2.5 คืออะไร
PM2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ เล็กจนขนจมูกของเราไม่สามารถกรองได้ นั่นจึงทำให้มันแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และเข้าสู่อวัยอื่นๆ ในร่างกาย ตัวฝุ่นยังเป็นพาหะนำโรคอื่นๆ เข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรคแคดเมียม ปรอท โลหะหนัก และสารก่อมะเร็งอื่นๆ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 มาจากสองแหล่งกำเนิดใหญ่ๆ ได้แก่ แหล่งกำเนิดโดยตรงเช่น การเผาในที่โล่ง การคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้า อุตสาหกรรมการผลิต และอีกอย่างหนึ่งคือ การรวมตัวของก๊าซอื่นๆ ในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) รวมทั้งสารพิษอื่นๆ ที่ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
ร่างกายของคนที่แข็งแรง เมื่อได้รับฝุ่น PM2.5 อาจจะไม่ส่งผลกระทบอะไรให้เห็นในช่วงแรก แต่หากรับติดต่อกันเป็นเวลานาน จนสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก สุดท้ายก็จะก่อให้เกิดอาการผิดปกติของร่างกายในภายหลัง โดยแบ่งได้เป็นผลกระทบทางร่างกาย และผลกระทบทางผิวหนัง โดยจะแสดงผลตั้งแต่ อาการไอ จาม ภูมิแพ้ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว จะยิ่งถูกกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรั งมีผื่นคันตามตัว ปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคือง เป็นลมพิษ ถ้าเป็นหนักมากอาจเกิดลมพิษบริเวณใบหน้า ข้อพับ ขาหนีบ ทำร้ายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนแอ เหี่ยวย่นง่าย เกิดโรคปอดเรื้อรัง ไปจนแรงสุดก็คือมะเร็งปอด
"แหล่งกำเนิด PM2.5 ในประเทศไทย มี 3 แหล่ง คือ รถยนต์ การเผาในที่โล่งแจ้ง และสภาพความกดอากาศต่ำ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย กระทรวงคมนาคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กรุงเทพมหานคร และสำนักนายกรัฐมนตรี"